Welcome to Thai nursing time
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมรองรับภาวะฉุกเฉิน (HPEHOC) ครั้งที่ 4 เพื่อติดตามการดำเนินงานฟื้นฟูด้านสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยมี นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์รองอธิบดีกรมอนามัย ดร.นายแพทย์ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ทีม SEhRT ทั้งจากส่วนกลางและส่วนในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม ณ กรมอนามัย และผ่านระบบ Video Conference
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขยังคงส่งทีม SEhRT ปฏิบัติภารกิจด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่หาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง จากการรายงานสถานการณ์ พบว่า ศูนย์พักพิงยังเปิดอยู่ 38 แห่ง มีผู้พัก 2,207 คน แหล่งน้ำใช้เพียงพอ 77.8% แต่กลับพบคลอรีนเพียง 1.6% ซึ่งเกณฑ์คลอรีนคงเหลือที่ควรมีในน้ำประปา ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข คือ 0.2 – 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงแนะนำประชาชนปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนนำมาใช้อุปโภค บริโภค การสำรวจบ้านเรือนยังพบเชื้อราอยู่บ้าง แนะนำเร่งทำความสะอาดและฆ่าเชื้อก่อนเข้าอยู่อาศัย การจัดการขยะมีการเก็บขยะออกจากบ้านแล้ว 70.2% สำหรับตลาดในชุมชนเริ่มกลับมาเปิดให้บริการแล้ว 1 ใน 3 ซึ่งทีม SEhRT ของกรมอนามัยยังคงลงพื้นที่ให้คำแนะนำด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม และมอบสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย ชุดทำความสะอาด V-Cleanครีมน้ำกัดเท้า ถุงขยะดำ ยาสามัญประจำบ้าน ชุดทำแผล และปูนขาว เพื่อดูแลสุขภาพและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของชุมชน โดยในพื้นที่ยังคงต้องการรับสนับสนุนชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ และคลอรีนเม็ด คลอรีนน้ำจำนวนมาก
“กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ยังได้แนะนำการล้างทำความสะอาดสถานที่สาธารณะที่ต้องเปิดใช้งานโดยเร็ว อาทิ ตลาด โรงเรียน โดยขอให้สำรวจความเสียหาย ตรวจสอบโครงสร้าง และระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัยก่อนเริ่มเข้าทำความสะอาด สำหรับ “ตลาด” จัดการสิ่งสกปรกบนเพดาน ฝาผนัง โคมไฟ และพัดลมก่อน จากนั้น กวาดเศษขยะตามพื้น ทางเดิน และรางระบายน้ำ ขัดคราบดินโคลน ไขมันบนพื้น ทางเดิน แผงจำหน่ายอาหาร และเขียงด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือโซดาไฟ แล้วล้างตามด้วยน้ำสะอาด ฆ่าเชื้อโรค ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เช่น น้ำผสมผงปูนคลอรีน 60 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วน 1 ช้อนชาต่อน้ำ 20 ลิตร ใช้ฝักบัวรดน้ำบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด และปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้คลอรีนออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค ล้างห้องน้ำในตลาด ทำความสะอาดอ่างล้างมือ ก๊อกน้ำ ที่ปัสสาวะ สายฉีดชำระ ที่รองนั่งส้วม พื้นห้องส้วมและกลอนประตู ด้วยน้ำยาทำความสะอาด เน้นจุดเสี่ยง เช่น และล้างด้วยน้ำสะอาด สำรวจและลอกท่อระบายน้ำ กำจัดสิ่งอุดตันหรือขยะเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง สำหรับ “โรงเรียน” ทำความสะอาดเช่นเดียวกัน เน้นโต๊ะ เก้าอี้ สนามเด็กเล่น ห้องน้ำ ห้องครัว โรงอาหาร ตู้น้ำดื่ม เครื่องกรองน้ำ ที่สำคัญ รอให้ระบบไฟฟ้าแห้งสนิทก่อนใช้งานเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดให้เตรียมชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง รองเท้ายาง และเตรียมวัสดุทำความสะอาด เช่น ถุงดำ น้ำยาฆ่าเชื้อ สารส้ม คลอรีนน้ำ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว